Posted on Leave a comment

Cotton คืออะไร? มีกี่ประเภท? ประโยชน์และการนำไปใช้ของผ้าคอตตอน

Cotton คืออะไร?

       Cotton เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ใคร่แข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนา-แน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย

Cotton มีกี่ประเภท?

แบ่งตามชนิดของเบอร์เส้นด้าย

ตามเบอร์เส้นด้าย หรือตามชนิดของเบอร์ผ้า โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20,32,40 ตามลำดับ

      1. ผ้า Cotton 100 % No. 20 เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าเบอร์ 32 เนื่องจากขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า

       2. ผ้า Cotton 100 % No.32 เนื้อผ้าจะมีความหนาน้อยกกว่าเบอร์ 20

     3.ผ้า Cotton 100 % No. 40 หรือเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไปจะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้นโดยเฉพาะตามเบอร์ที่ต้องการ เนื่องจากกระบวนการในการผลิต (ปั่นเส้นด้าย) ให้เส้นด้ายมีขนาดเล็กต้องอาศัย เครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนที่สูงในการผลิต

แบ่งตามกระบวนการผลิตเส้นด้าย

เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อผ้า เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีคุณภาพทั้งในด้านการเรียงตัวของด้ายที่มีความหนาแน่น สม่ำเสมอและกำจัดสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากเส้นใยเพื่อให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่ดีเมื่อไปทอเป็นผ้า

ดังนั้นทำให้มีการแบ่งเกรดผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการผลิตเส้นด้วย ออกเป็น 3 เกรด ดังนี้

Blue_sky_organic_cotton

Cotton OE (คุณภาพ: เกรดต่ำสุด / ราคาถูก)

ไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใย จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำขาดง่าย เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด เนื่องจากต้นทุนในการใช้เครื่องจักรและกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้ายเป็น เส้นด้ายต่ำสุด

Cotton Semi (คุณภาพ: ดี / ราคาปานกลาง)

ผ้า Cotton Semi ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักรทำให้ได้ผลผลิต เป็น เส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 – 32) และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง

Macrame Cotton Hanging Planter #bohowohnen #homedecor #plantlady #indoorgardenin

Cotton Combed หรือ Cotton Comb (คุณภาพ = ดีมาก / ราคาสูง)

ผ้า Cotton Comb ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสาง ทำให้ได้ผลผลิตเป็น เส้นด้ายที่มีขนาดเล็ก (เบอร์ 32 ขึ้นไป) และสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้า cotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และกระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน

ความมันเงา

ใยฝ้ายโดยทั่วๆ ไปจะมีความมันน้อย ต้องเพิ่มความมันด้วยการตกแต่ง เช่น ผ้าฝ้ายเมอร์เซอร๋ไรซ์

ความเหนียว

ฝ้ายจะมีความเหนียวปานกลาง คือจะเหนียวประมาณ 3.0-5.0 กรัมต่อเดนเยอร์ ความเหนียวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเปียก ความเหนียวเมื่อเส้นใยเปียกจะมากกว่าความเหนียวเมื่อแห้งประมาณ 25-40 เปอร์เซ็นต์ ความยืดหยุ่นและการยืดได้ ในฝ้ายขะยืดหยุ่นได้ค่อนข้างต่ำ คือจะยืดได้ประมาณ 3-7 เปอร์เช็น บางครั้งอาจถึง 10 เปอร์เซ็นก่อนถึงจุดขาด การหดตัวกลับที่เดิม หากจับยึดอออกเพีง 2 เปอร์เซ็นจะหดตัวกลับเข้าที่เดิมได้ 74 เปอร์เซ็น และถ้าจับยึดออก 5 เปอร์เซ็นจะหดกลับที่เดิมได้เพีบง 50 เปอร์เซ็น

ความคืนตัว

ใยฝ้ายและผ้าฝ้ายคืนตัวได้ต่ำ และยับง่ายมาก ความถ่วงจำเพาะ ใยฝ้ายมีความหนาแน่นและความท่วงจำเพาะ 1.54 กรัมลูกบาศก์เซนติเมตร

การดูดความชื้น

ฝ้ายดูดความชื้นในบรรยากาศได้ 8.5 เปอร์เซ็น ถ้าความชื้นสัมพันธ์ในอากาศ 95 เปอร์เซ็นและ 100 เปอร์เซ็น ฝ้ายจะดูดความชื้นไว้ได้ 15 เปอร์เซ็น และ 25-27 เปอร์เซ็น ตามลำดับ ผ้าฝ้าย สามารถดูดซับความชึ้นจากเหงื่อและน้ำได้ดีและสามารถ ระบายความชื้นได้เร็ว

ความคงรูป

โดยปกติผ้าฝ้ายจะคงรูป ไม่ยืด และหดตัวมากนัก ความยืดและหดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตเป็นผืนผ้าด้วย ถ้าต้องการไม่ให้หด จะต้องทำการตกแต่งให้ทนหด เช่น ผ้าซันฟอไรซ์

การผลิตไฟและการทนต่อความร้อน

ผ้าติดไฟง่ายและเร็ว เมื่อเผาจะมีกลิ่นเหมือนเผากระดาษ มีขี้เถ้าเหลือน้อย และมีสีเท่านุ่ม ผ้าฝ้ายถ้าถูกความร้อนแห้งที่มีความร้อนสูงกว่า 149 องศาเซลเซียสนานๆ จะทำให้ใยเสื่อมคุณภาพ แต่จะไหม้เกรียมถ้ารีดด้วยความร้อนสูงมากและการตกแต่ง เช่นการลงแป้ง ซึ่งจะช่วยให้ไหม้เกรียมง่ายขึ้น

Cotton 100% (ผ้าฝ้าย)

Cotton เป็นเส้นใยธรรมชาติ 100% ผลิตจากฝ้ายสวมใส่สบายะบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดีเยี่ยมเนื้อผ้าจะมีลักษณะด้าน แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือมันจะยับง่าย เมื่อซักบ่อยๆ ก็จะย้วย

ข้อดี

1. สวมใส่สบาย ระบายอากาศดีมาก ความยืดหยุ่น สูงมาก สวยงามสวมใส่สบาย

2. ผ้านุ่มเนียนสวย เนื้อนุ่ม ไม่ร้อน ผ้านุ่มเนียนสวย

3. การดูดซับน้ำดี ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดี สามารถซับเหงื่อได้ดีเยี่ยม

ข้อเสีย

1. ผ้าต้องหดตัวเมื่อผ่านการซักครั้งแรก เมื่อซักบ่อยๆ จะย้วย และหด ยืด ไม่อยู่ทรง ยับง่าย ดูแลรักษาลำบาก สีซีดเก่าเร็ว

2. ราคาสูงกว่าผ้า TC และ TK

3. ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพผ้าและร้านขาย

เส้นด้าย ที่นิยมนำมาทอผ้า Cotton มีดังนี้

Cotton No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ผ้าที่ทอได้จึงหนาพอสมควร

Cotton No.32 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็ก ผ้าที่ทอได้จะเนียนและบาง

Cotton No.40 เส้นด้ายมีขนาดเล็กที่สุด ผ้าที่ทอจึงเนียนมาก และบางมาก จึงต้องทอเป็นเส้นคู่ และราคาจะค่อนข้างสูง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *