พอย่างเข้าสู่เดือน มกราคม ของทุกปี สิ่งที่เราต้องเผชิญ ก็คือปัญหาหมอกควัน และ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านทางเดินหายใจ เช่น มีอาการหายใจไม่ออก แสบคอ แสบจมูก น้ำมูกมีเลือดปนเป็นต้น และในระยะยาวก็ยังส่งผลกระทบกับปอดของเราอีกด้วย จะเห็นว่า เจ้าฝุ่นเล็กๆนี้ อันตรายมากๆเลยใช่ไหมค่ะ โดยเราสามารถป้องกันการสูดดมฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยชนิดที่สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ โดยบนกล่องจะระบุไว้ชัดเจนค่ะ ว่าเป็นหน้ากากอนามัยชนิดป้องกัน PM 2.5 ได้
แต่ว่าจะให้เราใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งนอกบ้านและในบ้าน ก็คงจะอึดอัดน่าดูใช่ไหมค่ะ ไหนจะเวลากิน เวลานอน ก็ไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองได้ตลอดเวลา ดังนั้น วันนี้ เราจึงนำวิธีการลดฝุ่น PM 2.5 ในบ้านมาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีวิธีการอะไรบ้าง
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ เป็นอันดับแรกที่เราควรต้องทำเลยค่ะ เพราะเครื่องฟอกอากาศที่ดี จะช่วยกรองอากาศในบ้านให้ปลอดฝุ่น ทั้งฝุ่นขนาดใหญ่ และ ฝุ่นขนาดเล็ก โดยควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ โดยแผ่นกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ จะเรียกว่า แผ่นกรอง HEPA โดยในขณะนี้ เครื่องฟอกอากาศและแผ่นกรอง HEPA ไม่ได้มีราคาสูงมาก ทำให้เราสามารถซื้อมาติดตั้งไว้ที่บ้านได้ หรือถ้าบ้านไหนมีเครื่องฟอกอากาศอยู่แล้ว ก็อย่าลืมหมั่นเปลี่ยนแผ่นกรองทุกๆ 6 เดือน – 1 ปีนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเองค่ะ
- ตรวจเช็คสภาพบ้าน เราควรตรวจเช็คสภาพบ้าน ว่ามีรอยรั่ว หรือ รอยร้าวตรงไหนบ้าง ก็จัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ฝุ่น PM2.5 สามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในบ้านเราได้ อีกทั้ง ตรวจเช็คสภาพสีทาบ้านด้วยนะคะ ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือไม่ เพราะถ้าหากสีภายในเสื่อมสภาพ ก็จะกลายเป็นฝุ่น ซึ่งอันตรายมากๆเลยนะคะ หากพบว่าสีทาบ้านเสื่อมสภาพก็ควรรีบลอกสีเก่าออกและทาสีใหม่ค่ะ
- ล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ ปกติแล้วเราจะล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน – 1 ปี กันใช่ไหมค่ะ คนส่วนใหญ่ก็จะนิยมล้างกันทุกๆ 1 ปี แต่จริงๆแล้ว เราควรจะล้างทุกเดือนค่ะ โดยเฉพาะช่วงเดือนที่มีปัญหาหมอกควัน และ ฝุ่น PM2.5 อาจจะต้องล้างบ่อยขึ้นด้วยนะคะ แต่แนะนำว่า ใช้สเปรย์ล้างแอร์ ที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดมาทำเองจะประหยัดกว่าจ้างช่างแอร์เยอะเลยค่ะ เพราะจุดที่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ก็คือ ฟิลเตอร์แอร์นั่นเองค่ะ ส่วนอื่นๆ เราค่อยจ้างช่างทำปีละครั้งก็ยังไหวค่ะ และที่สำคัญนะคะ ล้างฟิลเตอร์แอร์เสร็จแล้ว อย่าลืมติดตั้งแผ่นกรองฝุ่น PM 2.5 หรือ แผ่น Filtreat ด้วยนะคะ
- หมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เราควรที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดฝุ่นในบ้านเป็นขั้นตอนแรก และ ใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นเป็นลำดับต่อมานะคะ เพื่อจะกำจัดฝุ่นให้ได้มากที่สุด และ อาจจะใช้น้ำยาดันฝุ่น ถูพื้นเป็นลำดับที่สามด้วยก็ได้ค่ะ เพื่อให้สะอาดมากขึ้น นอกจากพื้นและของใช้ต่างๆที่ต้องเช็ดทำความสะอาดแล้ว พวก ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน พรม ผ้าม่าน และผ้าต่างๆ ก็ควรจะเน้นทำความสะอาดนะคะ เพราะผ้าเป็นตัวกักเก็บฝุ่นที่ดีเลยค่ะ
- หลีกเลี่ยงการสร้างฝุ่นในบ้าน อาจจะงงกันใช่ไหมค่ะ ว่าอะไรคือการสร้างฝุ่นในบ้าน ก็ยกตัวอย่างเช่น การสูบบุหรี่ หรือ การจุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระ การเผาขยะ เป็นต้นค่ะ เพราะ นอกจากที่เราจะป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าบ้านแล้ว ตัวเราเองก็ไม่ควรจะสร้างฝุ่นในบ้านด้วยนะคะ
- ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้าน นี่ก็เป็นวิธียอดฮิตอีกวิธีหนึ่งเลยค่ะ เพราะต้นไม้บางชนิด เช่น ลิ้นมังกร จั๋ง เดหลี ปาล์มไผ่ พลูด่าง พวกนี้จะช่วยลดมลพิษได้ดี และนอกจากจะช่วยดักจับฝุ่นแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศ และ รักษาระดับความชื้นในบ้านด้วยนะคะ แต่ว่า ช่วงฤดูกาลของฝุ่น ราคาต้นไม้ก็จะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ แนะนำว่า ควรซื้อต้นไม้ในช่วงที่ราคาไม่แพง และเลี้ยงดูให้ดีค่ะ จะช่วยฟอกอากาศและประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยนะคะ ดูวิธีการดูแลต้นไม้ในบ้านได้ที่นี่
- เปิดบ้านเพื่อถ่ายเทอากาศในเวลาที่ค่าฝุ่นดีที่สุด โดยทุกๆเช้า หรือตอนกลางคืน ฝุ่นจะลอยขึ้นไปอยู่บนชั้นบรรยากาศ ทำให้ค่า PM2.5 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเปิดบ้านเพื่อระบายอากาศ ไล่กลิ่นอับ ลดความชื้นในบ้าน โดยอาจจะเปิดบ้านในช่วงเช้า ประมาณ 10-15 นาทีเป็นอย่างน้อย
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับ 7 วิธี ลดฝุ่น PM 2.5 ในบ้าน อย่างน้อยเราก็สามารถหายใจและใช้ชีวิตแบบปกติในบ้าน แต่ไม่ว่าจะลดฝุ่นยังไง ที่สำคัญคือ ต้องหมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อยๆค่ะ เป็นวิธีการลดฝุ่นที่อาจจะเหนื่อยนะคะ แต่ลดได้ดีที่สุดค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราและคนที่เรารักนะคะ