ท็อปเปอร์ หรือ แผ่นรองที่นอน ที่ช่วยเพิ่มระดับความนุ่มสบายของที่นอนของเรา โดยจะมีขนาดที่ไม่หนามาก สามารถปูวางเสริมบนที่นอน หรือวางบนพื้นก็ได้ ท็อปเปอร์ที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติในการให้ความนุ่มสบายในผิวสัมผัสแรก ช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงกดทับบริเวณหลัง ด้วยคุณสมบัตินี้เอง จึงจะทำให้เราไม่รู้สึกปวดเมื่อยเวลานอนหลับ และ ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของกระดูกคอและหลังได้ วันนี้เรามาดูกันค่ะ ว่าท็อปเปอร์แบบไหนที่จะช่วยลดอาการปวดหลังได้
นอกจากผู้ที่มีอาการปวดหลังแล้ว นักกีฬา คนท้อง คนวัยทำงานที่เสี่ยงจะเป็นออฟฟิตซินโดรม ผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไปที่ชอบนอนท่าเดิมๆเป็นเวลานาน คนที่นอนหลับไม่สนิท ผู้ที่ชอบนอนผิดท่า จนทำให้สรีระเกิดความไม่สมดุลจนเป็นผลให้กระดูกเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร เป็นผู้ที่ควรใช้ท็อปเปอร์ทั้งสิ้น
ท็อปเปอร์ในท้องตลาดในเวลานี้ จะมี 3 ประเภท คือ ท็อปเปอร์ใยสังเคราะห์ ท็อปเปอร์ขนห่านเทียม และ ท็อปเปอร์ยางพารา
ท็อปเปอร์ใยสังเคราะห์
ท็อปเปอร์ใยสังเคราะห์ จะเป็นท็อปเปอร์ที่ผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์เกรดธรรมดา (แบบที่ยัดในตุ๊กตา) จะเป็นใยที่ตีไม่ค่อยละเอียด หากซักแล้วอาจจับตัวเป็นก้อนได้ ให้ความรู้สึกการนอนที่นุ่มแน่น ราคาถูกจะอยู่ที่ 700-1300 บาท ควรเลือกที่ความหนา 4 นิ้วเป็นต้นไป สำหรับท็อปเปอร์ชนิดนี้ อาจช่วยได้ไม่มากในอาการปวดหลัง แต่นำไปทำเป็นที่นอนปิคนิค หรือ เบาะรองที่นอนที่ยุบตัวน่าจะเหมาะสมกว่า
ท็อปเปอร์ขนห่านเทียม
ท็อปเปอร์ขนห่านเทียม เป็นท็อปเปอร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ เพราะราคาถูก จับต้องได้ง่าย โดยจะมี 2 เกรด คือ เกรดสินค้าจีน ราคาหลักร้อย แต่ใยด้านในจะมีความบาง ไม่หนาแน่นเท่าสินค้าของไทย ซึ่งราคาแพงกว่า (ราคาประมาณ 1500-2500 บาท) โดยตัวขนห่านเทียมนี้ผลิตมาจากใยโพลีเอสเตอร์เช่นเดียวกัน แต่ผ่านการตีที่ละเอียดกว่า และผ่านเทคโนโลยีเคลือบสาร silicon เพื่อให้มีความนุ่มฟู ไม่จับตัวกันเป็นก้อน ซึ่งจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ให้ความรู้สึกการนอนที่นุ่มฟู หากต้องการลดอาการปวดหลัง ควรเลือกท็อปเปอร์มีส่วนเว้า ส่วนโค้งที่กระชับ เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน แต่ไม่แนะนำให้ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากใช้ท็อปเปอร์ชนิดนี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว ตามโรงแรมใหญ่ๆ จะใช้ท็อปเปอร์ชนิดนี้ในการรองที่นอน เพราะมีความนุ่ม และทำความสะอาดง่าย
ท็อปเปอร์ยางพารา
ท็อปเปอร์ยางพารา เป็นท็อปเปอร์อีกชนิดหนึ่งที่กำลังมาแรงในขณะนี้ เพราะไม่ยุบตัวง่าย อายุการใช้งานยาวนาน มีความยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่ร้อน และยังสามารถป้องกันไรฝุ่นได้อีกด้วย แต่มีข้อเสียคือ น้ำหนักค่อนข้างมาก ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อชิ้น ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 2500-10000 บาท แล้วแต่ความหนาของยางพารา โดยท็อปเปอร์ยางพารานี้ จะมี 2 ประเภท คือ ยางพาราแบบอัด และ ยางพาราแบบฉีด โดยยางพาราแบบอัดจะให้ความรู้สึกที่ไม่นุ่มและไม่แข็งเกินไป แต่ยางพาราแบบฉีกจะให้ความรู้สึกนุ่มและฟูกว่า หากต้องการ ท็อปเปอร์แก้ปวดหลัง แนะนำว่า ควรซื้อท็อปเปอร์ยางพาราที่ความหนา 2 นิ้ว หรือ 4 เซ็นติเมตร ขึ้นไป ทั้งแบบอัดและแบบฉีด เพราะความหนาประมาณนี้สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้ดี เนื้อที่นอนไม่นุ่ม และไม่แข็งจนเกินไป จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของโลหิตดีขึ้น สามารถรองรับสรีระของร่างกายได้อย่างสมดุล ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า โดยจะมีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ท็อปเปอร์จึงสามารถสลายแรงกดทับ และผ่อนคลายความตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระจายน้ำหนักได้และดูดซับแรงกดทับได้ดี ตามหลักสรีระศาสตร์ เหมาะกับผู้ที่ปวดหลังเรื้อรัง และ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก
-
Product on salePremium Topper ท็อปเปอร์ยางพาราไทยแท้หนา 4 เซ็น฿1,890.00 – ฿2,890.00